สุขโขพาเที่ยว

เนื่องด้วยความตึงเครียดของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในปัจจุบัน วันนี้ สุขโข แปลภาษา จึงขอนำเสนอบทความเบา ๆ ที่แนะนำอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งอยู่ติดกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยอันโด่งดังประจำตำบลเมืองเก่า จังหวัดสุโขทัย ที่ตัวแทนของเราได้ไปเที่ยวชมมาเมื่อช่วงต้นปี นั่นก็คือ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง” แหล่งให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์และสถานที่จัดแสดงโบราณวัตถุอันล้ำค่า

เมื่อเดินไปถึงหน้าพิพิธภัณฑ์ สิ่งแรกที่ปรากฏแก่สายตาของทีมสุขโขทัวร์คือต้นลั่นทมที่ขึ้นรายล้อมออกดอกสะพรั่งท้าทายประกายแห่งแสงอาทิตย์ แต่ยืนชื่นชมอยู่ได้เพียงไม่นาน แดดร้อน ๆ ที่ไล้ลามแผ่นหลังก็เร่งให้เราต้องรีบรุดเข้าไปในตัวอาคาร ลมเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศภายในราวกับชุบชีวิตให้ทีมสุขโขทัวร์กลับมากระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง

ด้านขวามือของทางเข้าเป็นโต๊ะลงชื่อนักท่องเที่ยวที่มาเข้าชมพร้อมด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิและเจลล้างมือแอลกอฮอล์ตามระเบียบบังคับด้านความปลอดภัยท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ตอนนี้ ข้างกันนั้นมีป้ายประกาศข้อแนะนำในการเดินชมสถานที่และข้อห้ามที่ผู้เข้าชมทุกคนต้องปฏิบัติตาม ส่วนด้านซ้ายมือคือตู้ล็อกเกอร์ไว้สำหรับเก็บกระเป๋าและสิ่งของมีค่าไว้ให้บริการ

เราเริ่มต้นการเรียนรู้ด้วยการซื้อบัตรเข้าชมในราคา 30 บาทที่แสนเป็นมิตรต่อกระเป๋าสตางค์

ห้องแรกที่เข้าไปถึงมีแผนผังวัดในจังหวัดสุโขทัยอยู่กึ่งกลางห้อง โดยจำลองภูมิประเทศของเมืองเก่าเป็นแบบสามมิติและมีลูกเล่นคือแผงปุ่มกดสีเขียวที่มีชื่อวัดกำกับอยู่ เมื่อเรากดปุ่มวัดใด หลอด LED สีแดงก็จะสว่างขึ้นบอกตำแหน่งของสถานที่นั้นในแผนที่จำลอง ช่วยให้เราไปตามหาเพื่อชมสถานที่จริงได้อีกด้วย ส่วนผนังรอบ ๆ ห้องจะมีแร่หินมีค่าและเครื่องไม้เครื่องมือในยุคก่อนประวัติศาสตร์จัดแสดงในตู้ พร้อมข้อมูลรายละเอียดโดยรวมของจังหวัดสุโขทัย เช่น สภาพภูมิอากาศ ทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงวิถีชีวิตของคนสุโขทัย

เมื่อชมห้องแรกเสร็จ พวกเราสุขโขทัวร์ก็ตบเท้าเดินตามเส้นทาง ไปยังตึกสองชั้นสีขาวทรงไทยโมเดิร์นซึ่งตั้งเด่นเป็นสง่าตั้งแต่มองจากนอกรั้ว เมื่อเท้าก้าวข้ามผ่านธรณีประตู และตรวจบัตรเข้าชมเป็นที่เรียบร้อย การเรียนรู้ประวัติศาสตร์อย่างจริงจังของเราก็เริ่มต้นขึ้น

ตึกจัดแสดงแห่งนี้มี 2 ชั้น โดยชั้นแรกจะจัดแสดงผลงานประติมากรรมอันประเมินค่ามิได้ข้าวของเครื่องใช้ เครื่องประดับ และแม้แต่ศิลาจารึกอันเป็นเครื่องแบ่งยุคประวัติศาสตร์ของไทย

สิ่งที่เป็นจุดสุดใจผู้เข้าชมคงเป็นเศียรพระศิลปะแบบสุโขทัยอันได้รับการยกย่องว่าเป็นยุคที่งานพุทธศิลป์งดงามที่สุดของไทย รวมถึงรูปปั้นเหล่าเทพเทวดาประดับเทวาลัยทั้งหลายซึ่งได้รับอิทธิพลจากเขมรในตู้กระจกขนาดใหญ่ ความวิจิตรงดงามทำให้สมาชิกทีมสุขโขทัวร์ปักหลักอยู่ตรงนั้นอยู่นานเพื่อดื่มด่ำและซึมซับความประณีตของช่างศิลป์ในยุคอดีต

ตรงข้ามกันนั้นเป็นตู้จัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้จากหิน สัมฤทธิ์ และเหล็ก พร้อมทั้งจัดแสดงเครื่องประดับจากแร่หินและลูกปัดมีค่าในยุคเดียวกัน ซึ่งสร้างความประทับใจแก่ชาวสุขโขทัวร์เป็นอย่างมาก

อีกฝั่งของชั้นแรกยังมีพระพุทธรูปทั้งศิลปะแบบสุโขทัยแท้และที่ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอื่น มีทั้งสภาพที่ยังสมบูรณ์และไม่สมบูรณ์ แต่ก็สามารถสะท้อนความประณีตและความศรัทธาที่มีต่อพระพุทธศาสนาของชาวสุโขทัยได้เป็นอย่างดี

ท้ายที่สุดก็คือศิลาจารึกหลักที่ 2 ซึ่งจารึกอักษรไทยโบราณเอาไว้เต็มแผ่น ลายสือไทยที่จารจดเอาไว้นั้นช่างชดช้อยสวยงาม ถึงชาวศตวรรษที่ 21 อย่างพวกเราจะอ่านอักขระไทยโบราณเหล่านี้ไม่ออกก็ไม่ต้องกังวลใจ เพราะที่เสาด้านข้างมีคำแปลควบคู่ไว้ให้เราได้อ่านเนื้อความในนั้น

ชั้นที่ 2 จัดแสดงเครื่องปั้นถ้วยชามต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสีสันอ่อนจางอันเป็นที่นิยมในสมัยนั้น หรือเครื่องถ้วยจากจีนลวดลายสวยงาม และตลับเล็กตลับน้อยที่เอาไว้ใส่ของกระจุกจิกจัดแสดงไว้ตรงบันไดก็มีให้ชมกันได้อย่างถ้วนทั่ว แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคงจะหนีไม่พ้น “เครื่องสังคโลก” อันเป็นสินค้าเลื่องชื่อของอาณาจักรโบราณแห่งนี้ ซึ่งนอกจากจะจัดแสดงถ้วยชามสังคโลกของจริงให้ชมแล้ว ทางพิพิธภัณฑ์ยังจำลองเตาทุเรียงและกรรมวิธีการทำเครื่องสังคโลกให้ชมอีกด้วย

ถัดไปอีกนิดก็จะเจอกับแบบจำลองสถาปัตยกรรมสุโขทัย ตัวโครงสร้างสีขาวเตะตาพาให้เดินเข้าไปใกล้ เมื่อเพ่งพิเคราะห์อย่างตั้งใจก็จะเห็นรายละเอียดอันงดงามจับตา

หากเราเดินเข้าไปอีกหน่อยก็จะเจอห้องจัดแสดงอีกสองห้อง ห้องแรกทางซ้ายมือ เป็นห้องแสดงศาสตราวุธหลากประเภท เช่น ตรี ทวน หอก กริช ดาบ และปืนรูปแบบโบราณก็ดูสวยงามไม่แพ้กัน ทางด้านขวามือเป็นห้องทรงโค้งที่ประดิษฐานพระพุทธรูปในอิริยาบถต่าง ๆ ไว้โดยรอบ แต่ที่เรียกความสนใจและถือเป็นความแปลกใหม่สำหรับพวกเราคงจะเป็น “พระพิมพ์สุโขทัย” หลักฐานชั้นเยี่ยมที่แสดงถึงความเชื่อและการเคารพบูชาพระพุทธศาสนาในสมัยโบราณ

หลังจากเดินเที่ยวชมพิพิธภัณฑสถานกันจนเต็มอิ่มแล้ว พวกเราสุขโขทัวร์ก็ขอถือโอกาสไปนั่งพักดับร้อนที่ร้านกาแฟบรรยากาศดีฝั่งตรงข้าม สั่งเครื่องดื่มเย็น ๆ กันคนละแก้ว แล้วนั่งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความรู้ที่ได้รับในวันนี้

หากใครอยากท่องเที่ยวแบบที่ได้ทั้งพักผ่อนและเรียนรู้สิ่งใหม่ไปในตัว สุขโข แปลภาษา ขอแนะนำให้มาที่ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง” แห่งนี้เลย

(เข้าชมเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2564)

---

SUKO Translation

​Translation agency - Thai / French / English

Accredited by the Embassy of France, the Embassy of Belgium, the Embassy of Switzerland and the Embassy of Grand Duchy of Luxembourg in Bangkok.

Member of the Franco-Thai Chamber of Commerce.

055-697-155 | 093 315 4000